[แก้] ประวัติ
บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งความรื่นรมย์ตามความหมายของชื่อเมืองที่น่าอยู่ สำหรับคนในท้องถิ่นและเป็นเมืองที่น่ามาเยือนสำหรับคนต่างถิ่น เมืองปราสาทหินในเขตจังหวัดบุรีรัมย์มากมีไปด้วย ปราสาทหินใหญ่น้อย อันหมายถึงความรุ่งเรืองมาแต่อดีต จากการศึกษาของนักโบราณคดีพบหลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อน ประวัติศาสตร์ สมัยทราวดีและ ที่สำคัญที่สุดพบกระจายอยู่ทั่วไปในจังหวัดบุรีรัมย์มากคือ หลักฐานทางวัฒนธรรมของเขมรโบราณ ซึ่งมีทั้งปราสาทอิฐ และปราสาทหินเป็นจำนวนมากกว่า 60 แห่ง รวมทั้งได้พบแหล่งโบราณคดีที่สำคัญคือเตาเผา ภาชนะดินเผา และภาชนะดินเผาแบบที่เรียกว่าเครื่องถ้วยเขมร ซึ่งกำหนดอายุได้ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึง 18 อยู่ทั่วไปหลังจากสมัยของวัฒนธรรมขอมหรือเขมรโบราณ แล้วหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มมีขึ้นอีกครั้งตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยปรากฏชื่อว่าเป็นเมืองขึ้นของเมืองนครราชสีมาและปรากฏชื่อต่อมาในสมัย กรุงธนบุรีถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ว่าบุรีรัมย์มีฐานะเป็นเมือง ๆ หนึ่ง จนถึง พ.ศ. 2476 ได้มีการจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาคใหม่ จึงได้ชื่อเป็นจังหวัดบุรีรัมย์มาจนถึงปัจจุบันนี้ชื่อเมืองบุรีรัมย์ ไม่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาและธนบุรีเฉพาะชื่อเมืองอื่น ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แก่ เมืองนางรอง เมืองพุทไธสง และเมืองประโคนชัย พ.ศ. 2319รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กรุงธนบุรี กรมการเมืองนครราชสีมา มีใบยอกเข้ามาว่า พระยานางรองคบคิดเป็น กบฏร่วมกับเจ้าโอ เจ้าอิน และอุปฮาดเมืองจำปาศักดิ์ จึงโปรดให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อยังดำรงคำแหน่ง เจ้าพระยาจักรีเป็นแม่ทัพไปปราบจับตัวพระยานางรองประหารชีวิตและสมทบเจ้าพระยาสุรสีห์ (สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท) คุมกองทัพหัวเมืองฝ่ายเหนือยกไปตีเมือง จำปาศักดิ์ เมืองโขง และเมืองอัตปือ ได้ทั้ง 3 เมือง ประหารชีวิต เจ้าโอ เจ้าอิน อุปฮาด เมืองจำปาศักดิ์ แล้วเกลี้ยกล่อมเมืองต่าง ๆใกล้เคียงให้สวามิภักดิ์ ได้แก่ เขมรป่าดง ตะลุบ สุรินทร์ สังขะ และเมืองขุขันธ์ รวบรวมผู้คนตั้งเมืองขึ้นในเขตขอมร้า เรียกว่า เมืองแปะ แต่งตั้งบุรีรัมย์บุตรเจ้าเมืองผไทสมัน (พุทไธสง) ให้เป็นเจ้าเมือง ซึ่งต่อมาได้เป็นพระยานครภักดี ประมาณปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือต้นราชการพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เปลี่ยนชื่อเมืองแปะเป็นบุรีรัมย์ด้วยปรากฏว่า ได้มีการแต่งตั้งพระสำแดงฤทธิรงค์เป็นพระนครภักดีศรีนครา ผู้สำเร็จราชการเมืองบุรีรัมย์ ขึ้นเมืองนครราชสีมาใน พ.ศ. 2411 เมืองบุรีรัมย์และเมืองนางรองผลัดกันมีความสำคัญเรื่อยมา พ.ศ. 2433 เมืองบุรีรัมย์โอนขึ้นไปขึ้นกับหัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ มีหนองคายเป็นศูนย์กลาง และเมืองบุรีรัมย์มีเมืองในสังกัด 1 แห่ง คือเมืองนางรอง
ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2440-2441 เมืองบุรีรัมย์ได้กลับไปขึ้นกับมณฑลนครราชสีมาเรียกว่า"บริเวณนางรอง" ประกอบด้วย เมืองบุรีรัมย์ นางรอง รัตนบุรี ประโคนชัย และพุทไธสง พ.ศ. 2442 มีประกาศเปลี่ยนชื่อ มณฑลลาวเฉียงเป็น มณฑลฝ่ายตะวันตกเฉียงเหนือ มณฑลลาวพวนเป็นมณฑลฝ่ายเหนือ มณฑลลาวเป็นมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ มณฑลเขมร เป็นมณฑลตะวันออกและในคราวนี้เปลี่ยนชื่อ บริเวณนางรองเป็น "เมืองนางรอง"มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ตั้งที่ว่าการอยู่ที่เมืองบุรีรัมย์ แต่ตราตำแหน่งเป็นตราผู้ว่าการนางรอง กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น "บุรีรัมย์" และเปลี่ยนตราตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2444 เป็นต้นมา
พ.ศ. 2450 กระทรวงมหาดไทยปรับปรุงหัวเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้มณฑลนครราชสีมาประกอบด้วย 3 เมือง 17 อำเภอ คือเมืองนครราชสีมา 10 อำเภอ เมืองชัยภูมิ 3 อำเภอ และเมืองบุรีรัมย์ 4 อำเภอ คือ
ต่อมาได้มีการตราพระราชบัญญัติระเบียบบริหารแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2476 ขึ้น ยุบมณฑลนครราชสีมา จัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคออกเป็นจังหวัดและอำเภอ เมืองบุรีรัมย์จึงมีฐานะเป็น จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
[แก้] สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
[แก้] ตราประจำจังหวัด
คือ รูปเทวดารำและปราสาทหิน- เทวดารำ หมายถึงดินแดนแห่งเทพเจ้าผู้สร้าง ผู้ปราบยุคเข็ญ และผู้ประสาทสุข
- ท่ารำ หมายถึงความสำราญชื่นชมยินดี ซึ่งตรงกับพยางค์สุดท้ายของชื่อจังหวัด
- ปราสาทหิน คือปราสาทเขาพนมรุ้งซึ่งมีกำแพงล้อมรอบ ภายในท้องพระโรงมีเทวสถาน
[แก้] ดอกไม้ประจำจังหวัด
ดอกฝ้ายคำ (Cochlospermum regium)[แก้] ต้นไม้ประจำจังหวัด
กาฬพฤกษ์ (Cassia grandis)[แก้] คำขวัญประจำจังหวัด
เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม | ||
— คำขวัญประจำจังหวัดบุรีรัมย์ |
[แก้] ความหมายของคำขวัญ
- เมืองปราสาทหิน หมายถึง บุรีรัมย์มีปราสาทหินเขาพนมรุ้ง เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด
- ถิ่นภูเขาไฟ หมายถึง บุรีรัมย์มีภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วหลายแห่ง
- ผ้าไหมสวย หมายถึง บุรีรัมย์มีการทอผ้าไหมขึ้นชื่อ ที่อำเภอนาโพธิ์
- รวยวัฒนธรรม หมายถึง บุรีรัมย์มีความเจริญทางด้านสังคม และเศรษฐกิจ
[แก้] อักษรย่อจังหวัด
บร.[แก้] ธงประจำจังหวัด
ธงสีม่วง-แสด ครงกลางมีตราประจำจังหวัดติดอยู่[แก้] หน่วยการปกครอง
[แก้] ที่ตั้งและอาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดสุรินทร์
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดสุรินทร์
- ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดสระแก้ว และประเทศกัมพูชา
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดนครราชสีมา
[แก้] อำเภอ
การปกครองแบ่งออกเป็น 23 อำเภอ 189 ตำบล 2212 หมู่บ้าน[แก้] การปกครองส่วนท้องถิ่น
อำเภอเมือง อำเภอคูเมือง อำเภอกระสัง อำเภอนางรอง อำเภอหนองกี่ อำเภอละหานทราย | อำเภอประโคนชัย อำเภอบ้านกรวด
อำเภอลำปลายมาศ อำเภอสตึก อำเภอปะคำ | อำเภอนาโพธิ์ อำเภอหนองหงส์ อำเภอพลับพลาชัย อำเภอห้วยราช อำเภอโนนสุวรรณ อำเภอชำนิ | อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ อำเภอโนนดินแดง อำเภอบ้านด่าน อำเภอแคนดง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ |
[แก้] ระยะทางจากอำเภอเมืองไปยังอำเภอต่างๆ
[แก้] ภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง พื้นที่ลาดจากทิศใต้ลงไปทิศเหนือ พื้นที่มีลักษณะเป็นลูกคลื่นน้อยเป็นที่ราบขั้นบันไดช่องเขาเกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อประมาณเก้าแสนถึงหนึ่งล้านปีเศษ ทำให้จังหวัดบุรีรัมย์มีลักษณะภูมิประเทศที่สำคัญคือ- พื้นที่สูงและภูเขาทางตอนใต้
- พื้นที่ลูกคลื่นลอนตื้นตอนกลางของจังหวัด
- พื้นที่ราบลุ่มตอนเหนือริมฝั่งแม่น้ำมูล
[แก้] ทุ่งกุลาร้องไห้
ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นที่ราบขนาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 2 ล้านไร่ อยู่ในเขตจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดร้อยเอ็ด การที่ได้ชื่อว่าทุ่งกุลาร้องไห้ มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า ชนเผ่ากุลาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยจากเมืองเมาะตะมะ ประเทศพม่า ได้เดินทางมาค้าขายผ่านทุ่งแห่งนี้ ต้องใช้เวลาเดินทางหลายวัน ไม่พบหมู่บ้านใด ๆ เลย น้ำก็ไม่มีดื่ม ต้นไม้ก็ไม่มีที่จะให้ร่มเงา มีแต่ทุ่งหญ้าเต็มไปหมด พื้นดินเป็นทราย เดินทางยากลำบากเหมือนอยู่กลางทะเลทราย ทำให้คนพวกนี้ถึงกับร้องไห้ในอดีตทุ่งกุลาร้องไห้ในฤดูแล้ง พื้นที่ส่วนใหญ่จะแห้งแล้งมาก ส่วนในฤดูฝนน้ำ จะท่วมทุกปี ใต้พื้นดินลงไปเป็นน้ำเค็ม ไม่สามารถทำการเกษตรได้ หลังจากที่ได้มีการพัฒนาที่ดินแล้ว ทุ่งกุลาร้องไห้ได้กลายเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สำคัญของประเทศ และกลายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่มีชื่อเสียงของไทย
[แก้] ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศในจังหวัดบุรีรัมย์ มีอยู่ 3 ฤดู คือ- ฤดูร้อน ปลายเดือน ก.พ. - พ.ค. มีอุณหภูมิสูงสุด 36 ซ. ในเดือน เม.ย.
- ฤดูฝน เดือน มิ.ย. - ก.ย. เนื่องจากมีเทือกเขาพนมดงรักขวางกั้นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จึงได้รับปริมาณน้ำฝนไม่มากนัก
- ฤดูหนาว เริ่มประมาณเดือน ต.ค. - ม.ค. มีอากาศหนาว และแห้งแล้ง อุณหภูมิต่ำสุด 11 ซ.
[แก้] สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์
[แก้] อำเภอเมือง
- ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ เป็นแหล่งเก็บรวบรวม และจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งเป็นแหล่งที่จะค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โบราณคดีและศิลป วัฒนธรรมของท้องถิ่น ศูนย์แห่งนี้เปิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2536 เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันในเวลาราชการ
- พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ ที่พสกนิกรชาวบุรีรัมย์ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งผู้สถาปนาเมืองบุรีรัมย์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์สักการะ รวมทั้งศูนย์รวมจิตใจที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และมหาจักรีบรมราชวงค์
- วนอุทยานเขากระโดง เขากระโดงเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ปากปล่องปะทุเห็นได้ชัดเจน รอบบริเวณแวดล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็กโดยเฉพาะนกนานาชนิดบนเขากระโดง ยังมีโบราณสถานสมัยขอม รอยพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปขนาดใหญ่เป็นที่เคารพสักการะ ของคนในท้องถิ่น นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมทิวทัศน์ของตัวเมืองบุรีรัมย์ และไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล
- อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ เป็นแหล่งดูนกน้ำแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ 4,434 ไร่ ซึ่งมีนกกระสาปากเหลือง เป็นนกที่มีค่าหายากอาศัยอยู่ นอกจากนี้ยังพบนกกระสาดำ นกกาบบัว นกอ้ายงั่ว เป็ดเทา และนกน้ำต่างๆ อีกมากมาย เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสามารถปั่นจักรยานชมทัศนีย์ภาพรอบอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดได้
- อ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เป็นทะเลสาบน้ำจืด สร้างขึ้นเพื่อการชลประทานและการประปา มีพื้นที่ 3,876 ไร่ อยู่ใน ต.บ้านบัว ต.เสม็ด และ ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีไม้พื้นเมืองยืนต้นร่มรื่น มีทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพตามฤดูกาลมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 170 ชนิด จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เหมาะสำหรับการดูนกและพักผ่อน
- โครงการชลประทานบุรีรัมย์ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เป็นทะเลสาบน้ำจืด สร้างขึ้นเพื่อการชลประทานและการประปา มีพื้นที่ 3,876 ไร่ อยู่ใน ต.บ้านบัว ต.เสม็ด และ ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีไม้พื้นเมืองยืนต้นร่มรื่น มีทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพตามฤดูกาลมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 170 ชนิด จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เหมาะสำหรับการดูนกและพักผ่อน
[แก้] อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
- อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ปราสาทเขาพนมรุ้งได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทหินที่งดงามมากแห่งหนึ่งของ ไทย ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้งซึ่งเคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน ตัวปราสาทสร้างด้วยหินทรายสีชมพู และศิลาแลงอย่างยิ่งใหญ่อลังการมีการออกแบบผังปราสาทตามแนวความเชื่อที่สอด คล้องกับภูมิประเทศศาสนสถานแต่ละส่วนประดับด้วยลวดลายวิจิตรงามตาโดยเฉพาะ หน้าบันศิวนาฎราชและทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่มีความงดงามละเอียดอ่อน ช้อย นับเป็นโบราณสถานอันทรงคุณค่าที่ไม่ควรพลาดชมในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 (ประมาณเดือน เม.ย. - พ.ค.) ของทุกปีจะมีประเพณีเดินขึ้นเขาพนมรุ้งเพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่า มหรรศจรรย์คือ พระอาทิตย์จะสาดแสงตรงเป็นลำทะลุช่องประตูปราสาททั้ง 15 บานราวปาฏิหารย์และเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบปีเท่านั้น
- วัดเขาพระอังคาร เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ ตั้งอยู่บนยอดเขาพระอังคารซึ่งสูงประมาณ 320 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีโบสถ์ที่ประยุกต์จากสถาปัตยกรรมหลายสมัย ดูสวยงามแปลกตา เป็นวัดที่สวยงามใหญ่โตแห่งหนึ่งของบุรีรัมย์ มีโบสถ์ ศาลา และอาคารต่างๆ สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมสมัยต่างๆ หลายรูปแบบงดงาม แปลกตาและน่าสนใจยิ่ง ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังและเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษด้วย บริเวณวัดเป็นปากปล่องภูเขาไฟคาดว่าเคยเป็นที่ตั้งของโบราณสถานสมัยทวารวดี เพราะเสมาหินแกะสลักสมัยดังกล่าวหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก
น้ำตกเขาพระอังคาร ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการสำรวจเพื่อเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัด
[แก้] อำเภอนางรอง
[แก้] อำเภอประโคนชัย
- ปราสาทเมืองต่ำ เมืองโบราณร่วมสมัยกับปราสาทเขาพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำเป็นปราสาทหินของโบราณที่มีขนาดใหญ่มาก สร้างขึ้นตามคติความเชื่อของศาสนาฮินดูเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตัว ปราสาทออกแบบได้อย่างงดงาม มีโครงสร้างที่ได้สัดส่วนบริเวณโดยรอบปราสาท เป็นชุมชนโบราณสมัยขอม ที่มีประวัติเกี่ยวเนี่ยงกับปราสาทเขาพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำจึงมีความสำคัญทางโบราณคดี นอกเหนือจากเป็นมรดกทางศิลปกรรมที่งดงาม ปราสาทแห่งนี้ได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2540
- อ่างเก็บน้ำสนามบิน
[แก้] อำเภอบ้านกรวด
- แหล่งหินตัด แหล่งหินตัด จังหวัดบุรีรัมย์ห่างจากตัวอำเภอบ้านกรวด 7 กม. เป็นลานหินกว้างเกือบ 2,000 ไร่ ใกล้ชายแดนติดกับราชอาณาจักรกัมพูชา มีร่องรอยการตัดหิน เพื่อนำไปสร้างปราสาทหินต่างๆ ในเขตอีสานใต้ รวมทั้งปราสาทพรมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ
- เตานายเจียน เป็นเตาเผาโบราณอายุประมาณ 1,000 ปี มี 2 เตา ชื่อเตาเผานายเจียน และเตาเผาสวาย และได้พบเครื่องเคลือบโบราณจำนวนมาก คนโบราณใช้เผาเครื่องปั้นดินเผา หม้อ ไห ต่างๆ
[แก้] อำเภอปะคำ
[แก้] อำเภอโนนดินแดง
- เขื่อนลำนางรอง เป็นเขื่อนดินฐานคอนกรีตขนาดใหญ่ จุน้ำได้ประมาณ 150 ล้านลูกบาศก์เมตร มีถนนลาดยางบนสันเขื่อนเชื่อมต่อไปยังหมู่บ้านตัวอย่าง หมู่บ้านพัฒนาหนองตาเยาว์ และหนองหว้า ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนเพียง 20 กว่ากิโลเมตรเท่ากัน ที่สันเขื่อนมีหินลอย (หินภูเขาไฟอีกชนิดหนึ่ง) เป็นก้อนและแผ่นสีสันแบ่งกันเป็นชั้นสวยงาม ซึ่งได้นำไปกองกั้นน้ำเซาะสันเขื่อน น
- ปราสาทหนองหงส์
- อนุสาวรีย์เราสู้ อยู่ริมทางหลวงในเขต ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ชาวบุรีรัมย์ร่วมสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2522 เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของประชาชน ตำรวจ และทหาร ที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับผู้ก่อ การร้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งขัดขวางการก่อสร้าง ถนนสายละหานทราย - ตาพระยา
[แก้] อำเภอสตึก
- พระพุทธรูปใหญ่ (พระพุทธรูปปฏิมาสันตยาภิรมย์สตึกอุดมราษฎรนิมิตนมิน)
[แก้] อำเภอลำปลายมาศ
[แก้] อำเภอพุทไธสง
- วัดศีรษะแรด (วัดหงส์) พระเจ้าใหญ่วัดหงส์เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 1.6 เมตร สูง 2 เมตร สร้างด้วยศิลาแลง มีลักษณะของศิลปะพื้นเมืองปรากฏอยู่มาก ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดหงส์ หรือวัดศีรษะแรด ในอำเภอพุทไธสง ทุกปีในวันขึ้น 14 ค่ำ หรือวันแรม 1 ค่ำเดือน 3 จะจัดงานเฉลิมฉลองทุกปี มีชาวอำเภอพุทไธสง และจังหวัดต่างๆ ไปนมัสการกราบไหว้เป็นจำนวนมาก
[แก้] อำเภอนาโพธิ์
- หมู่บ้านทอผ้าไหมนาโพธิ์ ผ้าไหมที่อำเภอนาโพธิ์จะมีทั้งผ้าไหมพื้นไหมหางกระรอก ผ้าโสร่ง ผ้าขาวม้า และผ้ามัดหมี่ การทอผ้ามัดหมี่จะมีลายพื้นเมืองดั้งเดิม และลายที่ประยุกต์ขึ้นใหม่ ลักษณะเด่นของผ้าไหมบุรีรัมย์ คือเนื้อจะแน่น เส้นไหมละเอียด ถ้าเป็นผ้าไหมมัดหมี่ที่เป็นแบบพื้นเมืองดั้งเดิมจะนิยมใช้สีขรึมๆ ไม่ฉูดฉาด
[แก้] อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์
- ปรางค์กู่สวนแตง เป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 โดยได้รับอิทธิพลจากศิลปกรรมสมัยนครวัดเป็นโบราณสถานอีกแห่งที่ถูกวางระเบิด จนองค์ปรางค์พังทลายลงมาเพื่อโจรกรรม ชิ้นส่วนปราสาทไปขาย ภายหลังกรมศิลปากรได้บูรณะใหม่จนมีความสมบูรณ์ และประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2547
[แก้] การเดินทาง
[แก้] รถโดยสารประจำทาง
- สายกรุงเทพ - บุรีรัมย์ ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) (หมอชิต) มาลงที่สถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ มีบริการทั้งกิจการทัวร์ , บริษัทขนส่ง จำกัด , ศิริรัตนพลทัวร์ , นครชัยแอร์
- กรุงเทพ - พนมรุ้ง - กรุงเทพ มีทั้งบริการรถประอากาศชั้น 1 และ 2 ใช้เวลาเดินทาง 6 - 7 ชั่วโมง
- กรุงเทพ - พุทไธสง -กรุงเทพ มีบริการรถปรับอากาศ VIP และชั้น 1 ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง
- กรุงเทพ - อุบลราชธานี
- กรุงเทพ - สุรินทร์
- กรุงเทพ - ศรีสะเกษ
- อุบลราชธานี - ระยอง
- อุบลราชธานี - ภูเก็ต
- มุกดาหาร - พัทยา แวะจอดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ มีทั้งรถปรับอากาศชั้น 1 และ 2
- บุรีรัมย์ - นครราชสีมา ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง
- บุรีรัมย์ - สุรินทร์ ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง
- บุรีรัมย์ - ขอนแก่น ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง
- บุรีรัมย์ - จันทบุรี ใช้เวลาเดินทาง 10 ชั่วโมง
- บุรีรัมย์ - อรัญประเทศ ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง
- บุรีรัมย์ - ร้อยเอ็ด ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง
- บุรีรัมย์ - นางรอง จุดหมายปลายทางที่อำเภอนางรอง ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง และ ปราสาทเมืองต่ำ
- บุรีรัมย์ - ประโคนชัย - บ้านกรวด - ละหานทราย จุดหมายปลายทางที่วัดป่าพระสบาย อำเภอบ้านกรวด อ่างเก็บน้ำสนามบิน และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด
- บุรีรัมย์ - พุทไธสง จุดหมายปลายทางที่ อำเภอพุทไธสง
- บุรีรัมย์ - สตึก จุดหมายปลายทางที่ อำเภอสตึก
- สายตลาดเทศบาล - เขากระโดง (สาย 1) ขึ้นรถได้ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และสถานีขนส่ง
[แก้] รถไฟ
จังหวัดบุรีรัมย์มีขบวนรถด่วนพิเศษสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี เป็นรถนั่งปรับอากาศชั้น 2 ทั้งขบวน ขบวนรถด่วนสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี, กรุงเทพ-ศรีสะเกษ และกรุงเทพ-ศีขรภูมิ ขบวนรถเร็วสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี รวมทั้งสิ้น 4 ขบวน ขบวนรถธรรมดาสายกรุงเทพ-สุรินทร์ และขบวนรถท้องถิ่นสาย นครราชสีมา-อุบลราชธานี รวมทั้งสิ้น 3 ขบวน จังหวัดบุรีรัมย์มีสถานีรถไฟตามเส้นทางรถไฟสายนครราชสีมา-อุบลราชธานีผ่าน อำเภอต่างๆ ดังนี้- อำเภอลำปลายมาศ
- สถานีรถไฟหนองกระทิง เดิมชื่อ หนองกะทิง เปลี่ยนชื่อราวๆ ปี พ.ศ. 2552
- สถานีรถไฟลำปลายมาศ สถานีรถไฟประจำอำเภอลำปลายมาศ
- สถานีรถไฟทะเมนชัย
- สถานีรถไฟบ้านแสลงพัน
- อำเภอเมือง
- สถานีรถไฟบ้านหนองตาต
- สถานีรถไฟบุรีรัมย์ สถานีรถไฟประจำจังหวัดบุรีรัมย์
- ที่หยุดรถไฟบ้านตะโก
- อำเภอห้วยราช
- สถานีรถไฟห้วยราช สถานีรถไฟประจำอำเภอห้วยราช
- อำเภอกระสัง
- สถานีรถไฟกระสัง สถานีรถไฟประจำอำเภอกระสัง
- สถานีรถไฟหนองเต็ง เดิมชื่อ บ้านหนองเต็ง เปลี่ยนชื่อราวๆ ปี พ.ศ. 2549
[แก้] เครื่องบิน
ปัจจุบันบริษัท นกแอร์ จำกัด และบริษัท ไทย รีเจียนัล แอร์ไลน์ จำกัด มีเครื่องบินไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ มาลงที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ (อำเภอสตึก) อยู่ประจำ[แก้] ทางหลวงแผ่นดินในจังหวัดบุรีรัมย์
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 ผ่านอำเภอหนองกี่ อำเภอนางรอง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอประโคนชัย
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 ผ่านอำเภอลำปลายมาศ อำเภอเมือง และอำเภอกระสัง
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 219 ผ่านอำเภอสตึก อำเภอบ้านด่าน อำเภอเมือง อำเภอประโคนชัย และอำเภอบ้านกรวด
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 218 ผ่านอำเภอเมือง และอำเภอนางรอง
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 224 ผ่านอำเภอปะคำ อำเภอละหานทราย และอำเภอบ้านกรวด
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 ผ่านอำเภอนางรอง อำเภอปะคำ และอำเภอโนนดินแดง
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 202 ผ่านอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ และอำเภอพุทไธสง
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 207 ผ่านเฉพาะอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์
[แก้] สถานีขนส่งผู้โดยสารในจังหวัดบุรีรัมย์
- สถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ปัจจุบันได้ถ่ายโอนภารกิจความรับผิดชอบให้เทศบาลเมืองบุรีรัมย์แล้ว
- สถานีขนส่งอำเภอนางรอง บริษัทนางรองอุตสาหกรรม จำกัด ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งในความควบคุมของกรมการขนส่งทางบก
- สถานีขนส่งอำเภอประโคนชัย บริษัทแสงสมชัย จำกัด ได้รับอนุญาตให้จั้ดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งในความควบคุมของกรมการขนส่งทางบก
[แก้] ศูนย์วัฒนธรรม
- ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้
- สนามเต้นแอโรบิก จังหวัดบุรีรัมย์
- วัดแม่พระแห่งสายประคำศักดิ์สิทธิ์ โรงเรียนมารีย์อนุสรณ์ (ศาสนาคริสต์)
[แก้] สะพานสำคัญ
- สะพานข้ามลำน้ำมาศ ข้ามลำน้ำมาศ อยู่ในเขตอำเภอลำปลายมาศ
- สะพานข้ามห้วยตลาด ข้ามลำห้วยตลาด อยู่ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์
- สะพานยาว ข้ามคูเมืองบุรีรัมย์ อยู่ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์
- สะพานข้ามแม่น้ำมูล ข้ามแม่น้ำมูล อยู่ในเขตอำเภอสตึก
[แก้] การสาธารณสุขในจังหวัดบุรีรัมย์
[แก้] การสาธารสุขในอำเภอเมือง
[แก้] การสาธารสุขในต่างอำเภอ
- โรงพยาบาลห้วยราช
- โรงพยาบาลกระสัง
- โรงพยาบาลลำปลายมาศ
- โรงพยาบาลสตึก
- โรงพยาบาลคูเมือง
- โรงพยาบาลประโคนชัย
- โรงพยาบาลนางรอง
- โรงพยาบาลพลับพลาชัย
- โรงพยาบาลชำนิ
- โรงพยาบาลหนองหงส์
- โรงพยาบาลพุทไธสง
- โรงพยาบาลบ้านกรวด
- โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ
- โรงพยาบาลโนนสุวรรณ
- โรงพยาบาลปะคำ
- โรงพยาบาลนาโพธิ์
- โรงพยาบาลบ้านใหม่ไชยพจน์
- โรงพยาบาลหนองกี่
- โรงพยาบาลโนนดินแดง
- โรงพยาบาลละหานทราย
[แก้] ตลาด
- ตลาดสดเทศบาล
- ตลาดสดไนซ์พล่าซ่า
[แก้] ด่านชายแดน
[แก้] อารามหลวง
[แก้] สถานศึกษา
- ดูเพิ่มที่ รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดบุรีรัมย์
[แก้] โรงเรียนมัธยม สพฐ.
[แก้] โรงเรียนเอกชน
[แก้] มหาวิทยาลัยเอกชน
- มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น วิทยาเขตบุรีรัมย์
[แก้] โรงเรียนอุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
- วิทยาลัยชุมชนบุรีรัมย์
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
- วิทยาลัยเฉลิมกาญจนา สาขาบุรีรัมย์
- วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์
- วิทยาลัยเกษตรกรรมและเทคโนโลยีบุรีรัมย์
[แก้] โรงภาพยนตร์
- TTF Cineplex ทวีกิจ ซุปเปอร์เซนเตอร์ สาขาบุรีรัมย์ จำนวน 2 โรง
- ทวีกิจ Cineplex ทวีกิจ พลาซ่า สาขาบุรีรัมย์ จำนวน 1 โรง
- J-Cineplex J.พลาซ่า สาขาลำปลายมาศ จำนวน 2 โรง
[แก้] กีฬา
[แก้] สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ (PEA)
สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์-การไฟฟ้าฯ เป็นสโมสรใหม่ที่เปลี่ยนแปลงมาจากสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 โดยดร.วีระ ปิตรชาติ มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานได้ออกกำลังกายและสร้างความสามัคคีร่วมกันในหมู่คณะต่อมาในปี พ.ศ. 2535 สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ง. โดยลงเล่น 3 ฤดูกาลก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นในถ้วย ค. และลงเล่นอยู่2ฤดูกาลก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นถ้วย ข. และอีก 2 ฤดูกาลสโมสรก็สามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ
หลังจากลงเล่นในดิวิชั่น 1 อยู่นานสโมสรก็ได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้สำเร็จเป็นครั้งแรก เมื่อได้รองแชมป์ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2547 และได้เล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกเป็น ครั้งแรกในฤดูกาล 2548 โดยฤดูกาลแรกในลีกสูงสุดสโมสรสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อได้ตำแหน่ง รองแชมป์ และศุภกิจ จินะใจกองหน้าของทีมก็คว้าตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับศรายุทธ ชัยคำดี กองหน้าของทีมการท่าเรือ ที่จำนวน 10 ประตู และยังได้เล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2549 อีกด้วย
ฤดูกาล 2551 สโมสรสามารถคว้าแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของประพล พงษ์พาณิชย์และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือก ในฤดูกาล 2552
ฤดูกาล 2552 สโมสรตกรอบคัดเลือกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกทำ ให้ไม่สามารถเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มได้ และมีผลงานในลีกไม่ดีนัก สโมสรจึงได้เปลี่ยนตัวกุนซือในเดือนพฤษภาคม ปี 2552 จากประพล พงษ์พาณิชย์เป็นทองสุข สัมปหังสิตอดีตกุนซือทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ ที่นครราชสีมา
ภายหลังฤดูกาล 2552 ซึ่งทีมมีผลงานจบในอันดับที่ 9 ทางสโมสรได้ตกลงที่จะย้ายสนามแข่งจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปอยู่ที่ จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงชื่อทีม เป็น บุรีรัมย์-การไฟฟ้าฯ จากการเข้าครอบครองอำนาจบริหารสโมสรของ นายเนวิน ชิดชอบ นักการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทำการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารทั้งหมด พร้อมกันนั้นทีมผู้ฝึกสอนก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในบางส่วนด้วยเช่นกัน
[แก้] สโมสรฟุตบอลจังหวัดบุรีรัมย์ (FC)
ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2552 ปัจจุบันเล่นใน ลีก ดิวิชั่น 1- บุรีรัมย์ เอฟซี.pngนักรบลาวา
[แก้] สินค้า OTOP
ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดหมี่
| ผลิตภัณฑ์จากต้นกก
| ผลิตภัณฑ์รองเท้าสมุนไพร
|
[แก้] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตจังหวัดบุรีรัมย์
- เขต 1 สนอง เทพอักษรณรงค์ พรรคภูมิใจไทย
- เขต 2 รังสิกร ทิมาตฤกะ พรรคภูมิใจไทย
- เขต 3 โสภณ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย
- เขต 4 อารีญาภรณ์ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย
- เขต 5 มนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ พรรคภูมิใจไทย
- เขต 6 พรชัย ศรีสุริยันโยธิน พรรคเพื่อไทย
- เขต 7 หนูแดง วรรณกางซ้าย พรรคเพื่อไทย
- เขต 8 รุ่งโรจน์ ทองศรี พรรคภูมิใจไทย
- เขต 9 จักรกฤษณ์ ทองศรี พรรคภูมิใจไทย
[แก้] ชาวบุรีรัมย์ที่มีชื่อเสียง
[แก้] นักมวย
- สมจิตร จงจอหอ นักมวยสากลได้รับเหรียญทองโอลิมปิก (เกิดที่บุรีรัมย์ ปัจจุบันอาศัยที่นครราชสีมา)
- กุมารทอง ป.ปลื้มกมล
- คมพยัคฆ์ ป.ประมุข
- จ้าวสิงห์ทอง นครหลวงโปรโมชั่น
- ดาวใหม่ ศิษย์โคดม
- นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ
- นำพล หนองกี่พาหุยุทธ
- ประยูรศักดิ์ เมืองสุรินทร์
- พนมรุ้งเล็ก กระทิงแดงยิม
- ลิงลม พ.ธวัชชัย
- เวทย์ ศักดิ์เมืองแกลง
[แก้] นักแสดง
- ทฤษฎี สหวงษ์
- คุณาฐารญา แก้วฝ่ายนอก
- สุนิสา แย้มงาม(น้องอ้อม)D9ดาวรุ่งลูกทุ่งไทยแลนด์ วงดนตรีลูกทุ่งเฟื่องฟ้า-ขาว รองแชมป์ฤดูฝนปี 5 รายการชิงช้าสวรรค์
- ทิชากร คุปตวานิช(น้องเกมส์)วงดนตรีโรงเรียนกระสังพิทยาคม ถ้วยรางวัลพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ รายการชิงช้าสวรรค์
[แก้] นักดนตรี
- แววตา สถาพร นักร้องหมอลำ
- จเร ภักดีพิพัฒน์ (เพชร พนมรุ้ง) นักร้องเพลงโห่ (คาวบอย)
- แดน บุรีรัมย์
- ประยงค์ ชื่นเย็น
- จิตรกร บุญสอน นักร้องนำวงไอน้ำ
- เมธา พิเลิศ กีต้าร์วงไอน้ำ
- กษิต พลวัน กีต้าร์วงไอน้ำ
- อุดมชัย บุญพรหมอ่อน กีต้าร์เบสวงไอน้ำ
- ใหม่ สุขเดชะ กลองวงไอน้ำ
[แก้] นักการเมือง
- สุรศักดิ์ นาคดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์หลายสมัย
- เนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์หลายสมัย
- ชัย ชิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน พรรคภูมิใจไทย และประธานสภาผู้แทนฯ
- การุณ ใสงาม
- โสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
- โสภณ เพชรสว่าง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหลายสมัย, อดีตประธานสภาผู้แทนฯ
- ทรงศักดิ์ ทองศรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
[แก้] ครูบาช้าง
[แก้] งานประเพณี
ชื่องานประเพณี | วันที่จัดงาน และสถานที่จัดงาน [3] |
---|---|
งานดอกฝ้ายคำบาน | ช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ของทุกปี บริเวณปราสาทเขาพนมรุ้ง |
นมัสการพระเจ้าใหญ่วัดศีรษะแรด (วัดหงส์) | วันขึ้น 14 ค่ำ ถึงวันแรก 1 ค่ำ เดือน 3 หรือตรงกับ วันมาฆบูชา ของทุกปี ที่วัดศีรษะแรด อ.พุทไธสง |
นมัสการรอยพระพุทธบาทจำลอง | วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือ วันมาฆบูชา |
ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง | วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 |
งานเครื่องเคลือบพันปี | ช่วงเดือน เม.ย. ของทุกปี ที่ อ.บ้านกรวด |
ประเพณีแข่งเรือยาว | วันเสาร์-อาทิตย์แรก ของเดือน พ.ย. ที่ลำน้ำมูล ที่ที่ว่าการ อ.สตึก |
มหกรรมว่าวอีสาน | ประมาณวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือน ธ.ค. บริเวณสนามกีฬา อ.ห้วยราช |
มหกรรมมวยไทยเทศกาลกินไก่ไหว้เจ้าพ่อขุนศรี | ประมาณต้นเดือน พฤศจิกายน ของทุกปี บริเวณสนามที่ว่าการอำเภอ อ.หนองกี่ |
[แก้] อ้างอิง
- ^ ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- ^ ประกาศ สานักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- ^ นายรอบรุ้ บุรีรัมย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น