-
จังหวัดบึงกาฬ |
|
สองนางศาลศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อใหญ่
แหล่งน้ำใสหนองกุดทิง สุดใหญ่ยิ่งแข่งเรือยาว
หาดทรายขาวเป็นสง่า น่าทัศนาแก่งอาฮง
งามน้ำโขงที่บึงกาฬ สุขสำราญที่ได้ยล[1] |
ข้อมูลทั่วไป |
|
|
จังหวัดบึงกาฬ เป็น
จังหวัดในประเทศไทย จัดตั้งขึ้นตาม
พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 อันมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป
[3] โดยแยกอำเภอบึงกาฬ อำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปากคาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล ออกจากการปกครองของ
จังหวัดหนองคาย
[แก้] การจัดตั้ง
ใน
พ.ศ. 2537 สุเมธ พรมพันห่าว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
พรรคเสรีธรรม จังหวัดหนองคาย เสนอให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้น โดยกำหนดจะแยกพื้นที่
อำเภอบึงกาฬ อำเภอปากคาด อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง อำเภอศรีวิไล และ
อำเภอบุ่งคล้า ออกจากจังหวัดหนองคาย รวมเป็นท้องที่ทั้งหมด 4,305 ตารางกิโลเมตร
[4] และมีประชากรประมาณ 390,000 คน
[5] อย่างไรก็ดี
กระทรวงมหาดไทย แจ้งผลการพิจารณาว่า ยังไม่มีแผนที่จะยกฐานะอำเภอบึงกาฬขึ้นเป็นจังหวัด เพราะการจัดตั้งจังหวัดใหม่เป็นการเพิ่มภาระด้านงบประมาณ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มกำลังคนภาครัฐ ซึ่งจะขัดกับมติคณะรัฐมนตรี
[6]
โครงการร้างมาเกือบ 20 ปี กระทั่ง พ.ศ. 2553 กระทรวงมหาดไทย ได้นำเรื่องการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อยก "ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ..."
[5] ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนจังหวัดหนองคายในคราวเดียวกัน ปรากฏว่า ร้อยละ 98.83 เห็นด้วยกับการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ
[5] ต่อมา วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ
[7] [8] โดยให้เหตุผลว่า
[9]
- เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในเรื่องอำเภอ จำนวนประชากร และลักษณะพิเศษของจังหวัด อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อการให้บริการแก่ประชาชน,
- จังหวัดหนองคายเป็นพื้นที่แนวยาวทอดตามแม่น้ำโขง จึงมีผลต่อการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน,
- จังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดอำนาจเจริญที่เคยตั้งขึ้นใหม่ก็มีเนื้อที่น้อยกว่าหลักเกณฑ์มติคณะรัฐมนตรีเช่นกัน,
- จังหวัดที่ตั้งขึ้นใหม่ไม่ให้บริการสาธารณะซ้ำซ้อนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ
- บุคลากรจำนวน 439 อัตรา สามารถกระจายกันในส่วนราชการได้ ไม่มีผลกระทบมากนัก
ต่อมารัฐสภาได้มีมติเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ..." เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
[10] อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงถวายร่างพระราชบัญญัติให้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธย โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "
พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554" ใน
ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 และใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น
[3] เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติ มีว่า
"...เนื่องจากจังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดที่มีท้องที่ติดชายแดน และมีลักษณะภูมิประเทศเป็นแนวยาว ทำให้การติดต่อระหว่างอำเภอที่ห่างไกลและจังหวัดเป็นไปด้วยความยากลำบาก และใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากเกินควร ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการจัดระเบียบการปกครอง การรักษาความมั่นคง และการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในท้องที่ สมควรแยกอำเภอบึงกาฬ อำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปากคาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย ออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคาย รวมตั้งขึ้นเป็นจังหวัดบึงกาฬ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้"
นอกจากมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่ให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ โดยมีองค์ประกอบเป็นอำเภอทั้งแปดข้างต้นแล้ว มาตรา 4 ยังให้เปลี่ยนชื่อ "อำเภอบึงกาฬ" เป็น "อำเภอเมืองบึงกาฬ" ด้วย
เมื่อวันที่ 22-25 มีนาคม พ.ศ. 2554 ได้มีการจัดงานฉลองจังหวัดบึงกาฬอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี
ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นประธานในพิธี
[11]
[แก้] ภูมิประเทศ
บึงกาฬเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีน้ำตก มีภูเขา เป็นจังหวัดที่มีเขตพื้นที่ติดต่อกับ
แม่น้ำโขง และ
แขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
[แก้] การปกครอง
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554 ผู้อำนวยการเลือกตั้งจังหวัดหนองคายออกมาระบุว่า จังหวัดบึงกาฬยังไม่ได้รับการแบ่งเขตเลือกตั้ง เนื่องจากราชกิจจานุเบกษาออกก่อนที่จังหวัดจะได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็น ทางการ ในส่วนของจังหวัดหนองคายที่มีเขตเลือกตั้ง 5 เขต สามารถเลือก ส.ส. ได้ 5 คน ตามประกาศเมื่อ 17 มีนาคม ก่อนที่จังหวัดบึงกาฬจะได้รับการจัดตั้งขึ้น
[12] ด้าน
คณะกรรมการการเลือกตั้งกำลังแบ่งเขตการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนเมษายนนี้ โดยเบื้องต้นจะให้บึงกาฬมี ส.ส. ได้ 2 คน
[13] การจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬใหม่ยังส่งผลกระทบทำให้ ส.ว. สรรหาลดลงเหลือ 73 คน
[14]
[แก้] หน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 8
อำเภอ 54
ตำบล 599
หมู่บ้าน
[แก้] ผู้ว่าราชการจังหวัด
รายนาม | ปีที่ดำรงตำแหน่ง |
1. นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา | พ.ศ. 2554 - ปัจจุบัน |
[แก้] รายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแบบแบ่งเขตของจังหวัดบึงกาฬ
- เชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์
- ไตรรงค์ ติธรรม [15]
[แก้] สถาบันอุดมศึกษา
[แก้] การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ
สมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้ระบุถึงวิสัยทัศน์ของจังหวัดบึงกาฬโดยเตรียมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การค้าชายแดน และการเกษตร โดยเฉพาะการปลูก
ยางพารา[16]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น